วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Diary Note 13 October 2015

Diary Note No.9

Substance

นำเสนองานวิจัย (Research)

  • เลขที่ 5 เรื่อง  การจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
  • เลขที่ 6 เรื่อง การคิดเชิงเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ 
นำเสนอโทรทัศน์ (Thai Teacher TV)

  • เลขที่ 7 เรื่อง แรงตึงผิว
  • เลขที่ 8 เรื่อง สอนเด็กอย่างไรให้มีจิตวิทยาศาสตร์ โดย ครูประกายแสง เงินกร
              ครูวาสนา พรมตา 
  การปลูกฝังจิตวิทยาศาสตร์ให้กับเด็ก
     คือเราต้องทำอย่างไรให้เด็กรักในวิทยาศาสตร์ ไม่เบื่อ อยากเรียน อย่างรู้อยากเห็น มีความสนใจซึ่งการสร้างจิตวิทยาศาสตร์ให้เด็กนั้นทำได้โดย
  •      สร้างบรรยากาศในการเรียนการสอน คือ การเตรียมอุปกรณ์ในการทดลอง ขั้นนี้เด็กจะเกิดการอยากรู้อยากเห็น รู้จักสังเกต อยากถามเกี่ยวกับอุปกรณ์
     การวัดผล
  • สังเกตหลังจากที่สอนว่าเด็กมีความสนใจเนื้อหา สนุกในการเรียนการสอน หรือไม่
  • สัมภาษณ์ผู้ปกครองว่าเด็กเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ที่บ้าน
     ธรรมชาติของเด็กจะเป็นคนขี้สงสัย ชอบถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม แต่ถ้าเด็กคนไหนที่ไม่จิตวิทยาศาสตร์จะไม่ค่อยถาม เรียนไม่สนุก ดังนั้นเราควรเรียนรู้จากสิ่งที่ใกล้ตัวเด็ก เด็กสามารถเห็นได้จริง ทดลองได้จริง

     การเตรียมตัวของครูผู้สอน
  • การสอนแบบบรรยาย ครูต้องมีเทคนิคในการสอน ครูต้องมีการเตรียมความพร้อม เนื้อหาต้องสั้น กะทัดรัด และเกิดความเข้าใจ เพราะถ้าเราพูดนาน ๆ เด็กจะเบื่อ เนื่องจากเด็กมีสมาธิที่สั้น
  • การทดลอง เด็กจะตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็น เกิดข้อสงสัย เด็กจะเรียนรู้จากการกระทำของเขาเอง
      การสร้างบรรยากาศ/การวางแผน
     ถ้าวางแผนไม่ดีเด็กจะไม่สนใจ การวางแผนที่ดี คือ ชื่อเรื่อง ต้องมีสิ่งเร้า ซึ่งสิ่งเร้า เด็กต้องสามารถหาหนทางแก้ไขปัญหาให้กับเราได้
  • เลขที่ 9 เรื่อง จุดประกายนักวิทยาศาสตร์ โดย อาจารย์ เฉลิมชัย วัดเข้าหลาม
     การสอนวิทยาศาสตร์อย่างไรนั้นไม่ให้น่าเบื่อ และสอนอย่างไรให้เด็กมีความชอบ ความรักในวิทยาศาสตร์ หลักการที่ อาจารย์ เฉลิมชัย ใช้ คือ

  1. เราต้องสอนให้สนุก สอนให้น่าสนใจ
  2. สอนในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก เช่น ธรรมชาติ สิ่งของ เป็นต้น
  3. ให้เด็กลงมือกระทำหรือปฏิบัติด้วยตนเอง เด็กนั้นจะเกิดความจดจำแบบไม่รู้ลืม
นำเสนอของเล่นของเพื่อนที่ยังไม่ได้นำเสนอ
  • กลองแขก
  • คานหนังสติ๊ก
  • ปี่กระป๋อง
สาระที่เด็กควรเรียนรู้
  1. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก  รู้จักชื่อ-นามสกุล รูปร่าง หน้าตา อวัยวะต่างๆ วิธีระวังรักษาร่างกายให้สะอาด ปลอดภัย
  2. เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่  รู้จักและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน รวมทั้งบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  3. ธรรมชาติรอบตัวเด็ก  รู้จักสิ่งมีชีวิตที่เป็นต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของโลกที่แวดล้อมเด็กตามธรรมชาติ เช่น ฤดูกาล กลางวัน-กลางคืน ฯลฯ
  4. สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก   รู้จักสิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ และการสื่อสารต่างๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันของเด็ก
 กิจกรรม (Activities)
  • แบ่งนักศึกษาออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทำ Mind Mapping  ในห้วข้อที่ตัวเองได้ คือ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก

    ซึ่งกลุ่มของดิฉันได้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก สอนเรื่อง ร่างกาย โดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อ ดังนี้
    1. ชนิด
           เช่น อวัยวะภายนอก อวัยวะภายใน
    2. ลักษณะ
           เช่น สถานะ รูปทรง ขนาด และ สี
    3. ประโยชน์
                        เช่น ทำให้ร่างกายสมดุล,ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เคลื่อนที่
               4.  การดูแลรักษา
                         เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ,รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
               5.  ข้อควรระวัง
                         เช่น ใช้ร่างกายให้ถูกวิธี
  • หลังจากทำ Mind Mapping เสร็จ อาจารย์ได้สั่งงานให้ทำสิ่งประดิษฐ์ในเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก โดยมีหัวข้อดังนี้
         - ของเล่นที่เด็กทำได้เอง
         - ของเล่นเข้ามุม
         - ของเล่นที่ทำการทดลอง
เทคนิคการสอน (Technical Education)
  • มีการใช้ Ask and Answer ในเรื่องที่เรียนอยู่จนทำให้นักศึกษาเกิดกระบวนการเรียนรู้
ทักษะที่ได้รับ (Gain Skills)
  • Has been ask and answer skill
  • Has been critical thinking skills
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ (Adoption)
  • สามารถนำความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์กับการจัดการเรียนสอนให้แก่เด็กปฐมวัย ว่าเราควรสอนอย่างไร 
ประเมินอาจารย์ (Teaching Evaluation)
  • อาจารย์เข้าสอนตรงต่อเวลา เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น ไม่ตีกรอบเด็กในการตอบคำถาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น